วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

DOWLOAD LITTLE BUSTER

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

final fantasy

FINAL 

FINALFANTASY one-two


เรื่องราว..

 FINAL FANTASY one



2000 ปีที่แสนยาวนาน ก่อนหน้ายุคปัจจุบัน...'The Four Fiends'ปีศาจร้ายทั้ง 4 ได้ทำพันธะสัญญากับ

อัศวินหนุ่มคนหนึ่ง นามว่า การ์แลนด์เพื่อมุ่งสู่การมีชีวิตอันยืนยงชั่วนิรันดร์ของทั้งสองฝ่าย...

อัศวินหนุ่มผู้เก่งกาจคนนั้น ได้รับพลังที่เกินหยั่งถึง และเกิดใหม่ ในร่างของสิ่งมีชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

แห่งด้านมืด...ชื่อของมันคือ "คาออส"

...และแล้ว เวลาก็ล่วงเลยไปถึง 2000 ปี...กระแสประวัติศาสตร์ แล่นไหลไปอย่างต่อเนื่อง โดยมิได้มี

ท่อนใด กล่าวถึงเนื้อหาของพันธะสัญญาในเงามืดนั้นเลย แม้แต่บรรทัดเดียว...


 FINAL FANTASY two


จักรวรรดิพาราเมเกียอันเกรียงไกร นำโดยจักรพรรดิผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ได้ทำการขยายอำนาจ รุกรานดิน

แดนข้างเคียงอย่างไม่หยุดหย่อน...ภายใต้เวทย์มนตร์ดำอันกล้าแข็ง และกองทหารแห่งความมืดที่ฆ่า

ไม่ตายแล้ว...เสียงร่ำไห้ของผู้คน ก็ดังระงมไปทั่ว เปลวเพลงโหมกระหน่ำ หยดเลือดสาดกระจาย ย้อม

ราตรีที่มืดมิด ให้เป็นสีแดงฉาน...

แม้จะไร้ซึ่งกำลัง แต่ราชาแห่งเมืองฟินน์ ก็ได้แอบก่อตั้งกองทัพปฎิวัติขึ้นมาในเมืองที่แสนห่างไกล 

ทำการซ่องสุมกองกำลัง และประสานความร่วมมือกับอาณาจักรอื่นๆ ที่ต่างก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน 

และกำลังจะเดินหน้าไปสู่จุดจบในรูปแบบเดียวกัน...



 FINAL FANTASY three




โลกใบนี้ คงอยู่ได้ด้วยพลังของคริสตัลแห่งแสงสว่างทั้ง 4 ซึ่งเป็นขุมพลังแห่งธาตุอันยิ่งใหญ่ที่คอยหล่อเลี้ยงให้ทุกชีวิตดำเนินไป...และเมื่อมีแสงสว่างสาดส่อง ในขณะเดียวกัน ก็จักต้องมีความมืดมาถ่วงดุล...ดังนั้น คริสตัลแห่งความมืดอีกชุดหนึ่ง ก็มีอยู่เพื่อรักษาสมดุลของขั้วทั้งสอง ให้โลกคงอยู่ได้ตลอดช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานนี่เอง

เมื่อใดที่ความมืดเสียสมดุล... แสงสว่างจะคัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นตัวแทน นำสันติสุขกลับคืนมาสู่ทุกชีวิต ...และหากถึงคราแสงสว่างไร้เสถียร... ความมืด ก็จะคัดเลือกตัวแทน มาปิดฉากหายนะนั้นๆ ให้ทุกอย่างกลับสู่วัฏจักรเดิมในที่สุด...

ไม่ว่าเวลาจะเนิ่นนานเท่าไร ...กงล้อแห่งการเปลี่ยนแปลงก็ยังคงหมุนต่อไป

ดุจดังเมื่อครั้งอดีต...เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ได้ก้าวหน้าเกินขีดจำกัด เหล่าผู้โง่เขลาได้คิดท้าทายธรรมชาติ ทำการดึงพลังจากคริสตัลแห่งแสงมาใช้เพื่อสร้างประโยชน์ส่วนตน จนสุดท้าย ธรรมชาติก็เกิดการปั่นป่วน อารยธรรมเหล่านั้นเสื่อมสลายพินาศลงแทบหมดสิ้น คริสตัลแห่งความมืด จึงทำการคัดเลือกตัวแทนเหล่านักรบขึ้นมา ต่อสู้นำสมดุลแห่งแสงกลับคืนจุดเดิมได้ในที่สุด...

 FINAL FANTASY for


DOWNLOAD


Lunarians เชื้อชาติที่อาศัยอยู่บนดวงจันทร์มีการถกเถียงอย่างมากเกี่ยวกับคนของโลก อีกด้านหนึ่งนำโดยผู้ชายคนหนึ่งชื่อ KluYa, เชื่อกันว่าโลกเป็นสถานที่ที่ดีโดยทั่วไปในขณะที่ด้านอื่น ๆ นำโดย Zemus, เชื่อว่ามันเป็นสถานที่ที่เสียหายและสมควรที่จะถูกทำลาย Zemus ได้ตกไป แต่ในความสิ้นคิดเขาพยายามที่จะทำลายโลกของตัวเอง แต่ก็เจ๊งเพื่อสาบานว่าสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง Lunarians ปิดผนึกตัวเองลงในการนอนหลับลึกแต่งตั้งเท่านั้น Lunarian เดียวชื่อ FuSoYa (น้องชายของ KluYa) เพื่อดูเหนือพวกเขา การนอนหลับคือการรักษาโดยแปดCrystals
KluYa แต่ตื่นจากการนอนหลับของเขา gazes บนแผ่นดินและตกหลุมรักกับหญิงโลก เขาตัดสินใจที่จะละทิ้งการแข่งขันของเขาและเดินทางไปที่นั่น ปัจจุบันเขาเป็นพ่อลูกชายสองคนและเซซิล Golbez

 FINAL FANTASY five




แต่ละหน้ากระดาษของสมุดบันทึกเล่มใหญ่ ที่ถูกเรียกว่า “ประวัติศาสตร์” นั้น ต่างสะท้อนให้เห็นถึงวัฎจักรอันจริงแท้ของเหล่ามนุษย์...มีเกิด มีดับ หมุนเวียนไปตามกาลเวลา...ในแต่ละช่วงอายุอันจำกัดนั้น คนหลายผู้ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองได้เป็นผลสำเร็จ...ในขณะที่อีกหลายคน ทำได้เพียงโอบกอดเจตจำนงที่ยังไม่ลุล่วงของตนไว้...ตราบจนวินาทีสุดท้าย 

กว่าพันปีก่อนหน้ายุคปัจจุบัน จอมมารผู้ทรงพลานุภาพนาม เอนูโอ (Enuo) ได้ใช้เวทย์มนตร์อันมหาศาลของตน สร้างสิ่งที่น่าพรั่นพรึงที่สุดในประวิติศาสตร์ของมนุษยชาติขึ้น...นามนั้นคือ “ The Void “ มหาเวทย์แห่งความว่างเปล่า…เวทย์ต้องห้ามอันยิ่งใหญ่ ที่พร้อมจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่าง...ไม่เว้นแม้แต่ตัวมันเอง เข้าสู่ห้วงมิติที่แสนเวิ้งว้างและไกลโพ้น…สู่มิติที่ที่ไม่มีทั้งการก่อกำเนิด และไม่มีทั้งการดับสูญ... 

เพียงแค่”การมีอยู่” ของมัน ก็เพียงพอที่จะคุกคามวัฎจักรแห่งชีวิต...เหล่าผู้กล้าในยุคนั้น ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ใช้ “อาวุธในตำนานทั้ง 12“ ปราบเอนูโอลงได้เป็นผลสำเร็จ 

ความปรารถนาที่จะส่งทุกสิ่งทุกอย่างกลับสู่ความว่างเปล่า เป็นอันต้องจบสิ้นไป พร้อมๆกับจอมเวทย์ผู้ชั่วช้า…ทว่า...มหาเวทย์แห่งความว่างเปล่าที่ถูกสร้างขึ้นนั้น กลับไม่มีสิ่งใดทำลายมันลงได้เลย...ทางเลือกสุดท้ายของเหล่าผู้กล้า ก็คือการเดิมพันโดยใช้ชะตาของ “โลก” ทั้งใบ เพื่อแลกกับการ “ผนึก” สิ่งนั้นเสีย 

พวกเขาและเธอ ตัดสินในกระทำการใหญ่ โดยทำการแบ่งขุมพลังที่ควบคุมโลกทั้งใบ...ขุมพลังบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในรูปของ “คริสตัล"” พิสุทธิ์ทั้งสี่ ออกเป็นสองชุดด้วยกัน...พร้อมกันนั้นเอง...ผืนแผ่นดินที่เคยเชื่อมต่อ ก็เริ่มปริออก...ท้องทะเลก็เริ่มแบ่งแยก...แม้สายลม ก็ราวกับจะถูกกั้นห่างด้วยกำแพงที่มองไม่เห็น 

...โลกดั้งเดิม พลันแยกออกเป็นสองใบในบัดดล !! 

 FINAL FANTASY six



บทนำในอดีตกาล ได้มี สงครามเกิดขึ้น และ ผลจากสงครามครั้งนั้น ได้ทำให้โลกกลายเป็น ดินแดนรกร้างว่างเปล่า และอำนาจเวทย์มนต์ ก็ได้ สูญหายไป 1000 ปีหลังจากนั้น ได้มีการค้นพบ โลหะ ดินปืน เครื่องจักรไอน้ำ และ เทคโนโลยีชั้นสูง ที่ได้สูญหายไป แต่ทว่า ยังมี บุคคลบางกลุ่มผู้ที่ ต้องการครอบครองโลก โดยอาศัยอำนาจการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งนั่นก้อคือ อำนาจเวทย์มนต์ ( มาโฮ ) ซึ่งมันจะเป็นไปได้ไหมว่า สิ่งที่พวกเขาทำเหล่านี้จะเป็นการกระทำที่ผิด พลาดเช่นในอดีต ?
FINAL FANTASY seven ps1



Final Fantasy VII เริ่มต้นด้วยการเข้าร่วม AVALANCHE เมฆในชุดของการจู่โจมต่อเครื่องปฏิกรณ์ Mako รอบเมือง Midgar แม้ว่าภารกิจแรกคือการประสบความสำเร็จ AVALANCHE ถูกขังอยู่ที่เครื่องปฏิกรณ์อื่นในระหว่างการโจมตีที่ตามมาระเบิดเตาปฏิกรณ์, เมฆเปิดตัวจากระดับบนของ Midgar ในชุมชนแออัดที่อยู่ด้านล่าง เขาดินแดนบนเตียงดอกไม้ที่เขาได้รับการแนะนำอย่างเป็นทางการเพื่อ Aerith. แจ้งโดยการมาถึงของ Shinra ของรณเติส่งไปจับ Aerith, เมฆตกลงที่จะเป็นบอดี้การ์ด Aerith และปกป้องเธอจากเติร์ก. หลังจากที่ Shinra ค้นพบสถานที่ตั้งของสถานที่หลบภัยของ AVALANCHE, [24] พวกเขาทำลายได้โดยการรื้อถอนทั้งหมดของภาค 7 ฆ่าประชากรและสามสมาชิกของ AVALANCHE ของมัน เติกส์ยังจับ Aerith ที่จะเปิดเผยล่าสุดที่รอดตาย "Cetra", การแข่งขันอย่างใกล้ชิดกับสนิทสนมระหว่างดาวเคราะห์และก่อนหน้านี้คิดที่จะสูญพันธุ์ ประธาน Shinra เชื่อ Aerith สามารถนำเขาไปสู่ "ดินแดนสัญญา", ที่ดินที่เป็นตำนานของความอุดมสมบูรณ์ซึ่งเขาคาดว่าจะพบ Mako พลังงาน

 FINAL FANTASY sevan PSP



แซ็กซ์ แฟร์ โซลเยอร์ คลาสเซคัลด์ของชินระคอมปานี ได้รับภาระกิจให้ชิงขบวนรถไฟจากการควบคุมของอูไตโดยต้องปฎิบัติการ่วมกับ แองจีล โซลเยอร์เฟริ์สคลาส เริ่มฉากต่อสู่เป็นการสอนการควบคุมปุ่มต่างๆจัดการทหารให้หมดก่อนจะพบบอส เบฮิมอส จัดการแล้วจะพบกับ เซฟิรอส โซลเยอร์เฟริ์สคลาสในตำนานเข้ามาเล่นงานแซ็กซ์แต่แองจิลก็เข้ามาชวางเอาไว้ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการซ้อมกันนั่นเองแล้ว แองจีล ก็บอกแซ็กซ์ว่า ถ้าอยากเป็น ฮีโร่ ต้องไม่ลืมความฝันและความภาคภูมิใจ 

 FINAL FANTASY Eight



นับแต่อดีตกาล จวบจนถึงวันที่วิทยาการเจริญก้าวหน้าถึงขีดสุดนี้...น่าขำนัก ที่ผู้ซึ่งดำรงอยู่ในจุดสูงสุดเหนือสรรพชีวิต กลับมิใช่มนุษย์ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ หากแต่เป็นเหล่าสตรีที่มีพลังพิเศษเหนือจินตนาการ ซึ่งถูกเรียกด้วยชื่อรวม ที่สะท้อนถึงความหวาดหวั่นว่า...เหล่า"แม่มด" (Sorceress) ผู้น่าพรั่นพรึง...

ก่อนหน้ายุคปัจจุบันไปเพียงเล็กน้อย ทั่วทั้งโลกกำลังระส่ำระสายไปด้วยหายนะที่เกิดจาก แม่มดอาเดล (Adel) ผู้ชั่วร้าย...ด้วยพลังเวทย์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียม และกองทัพที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งวิทยาศาสตร์แล้ว อาเดลสามารถปกครองผู้คนด้วยความหวาดกลัวมาเป็นระยะเวลาเนิ่นนาน

...หากแต่ว่า ด้วยธรรมชาติของผู้ที่เป็นแม่มดนั้น เมื่อถึงเวลาที่สมควร ก็จักต้องถ่ายทอด"พลัง"ของตนให้กับผู้สืบทอดที่เหมาะสม...ก่อนที่จะจบชีวิตของตนไปได้อย่างสงบสุข

 FINAL FANTASY nine



planet เราได้ชื่อว่า 'Terra' อารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของเราที่ Terra, ความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาวและนับหมื่นของปีที่ผ่านมา เรามีความภูมิใจในภูมิปัญญาของตนเองและเทคโนโลยีคําที่ใดก็ได้ในโลกนี้กว่าที่รุ่งเรืองมาถึงจุดจบ ... ทรัพยากรธรรมชาติได้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรง โรคระบาดแพร่กระจายแผ่กระจายไปทั่วดินแดน ผลกระทบของการแข่งขันทั้งหมดจะลดลงเกือบสูญพันธุ์ เมื่อทุกอย่างเข้าสู่วิกฤติ ระดับสูงของความเข้าใจของ Terra ประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ผลของการประชุมคือการใช้มาตรการของทุกชีวิตบนการฟื้นตัวของทวีป การสวนรุกขชาติและสัตว์ที่ได้รับการฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่มันจบลงด้วยความหวังสุดท้ายคือความล้มเหลวที่สมบูรณ์ ซ้ำร้ายเพื่อเพิ่มเติมกระตุ้นฟันเฟืองของ Terra เพื่อหมุนไปตามทิศทางของความหายนะเร็วขึ้น สุดท้ายเราก็ยังคงตัดสินใจที่จะสะกดทุกอย่างออกเพื่อที่จะหยุดโรคระบาดที่จำศีลเท่านั้น และได้รับการคัดเลือก "คนดู" การบริหารจัดการของการดูแลในช่วงเวลาที่ผ่านหลายพันปี แม้ขณะนี้ยังคงอยู่ใน Terra ช่วงการนอนหลับอาจไม่ทราบชะตากรรม ด้วยเหตุนี้เราได้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการย่อยสลายของอารยธรรมของเราที่มีเนื้อสัตว์ และดูที่ Terra ถูกกู้คืนได้เหมือนก่อน ... เมื่อเวลาสำหรับนิรันดร์อันรุ่งโรจน์ที่จะมาถึง ... มันทั้งหมดสิ้นสุดขึ้นเท่านั้น ทุกอย่างกลับไปที่เงียบสงบอีกครั้ง แต่การเดินทางของทั้งสี่คงที่ยืดยังคงไม่ตอบสนอง เย็นที่ลอยอ้อยอิ่งเหมือนหมอกบดบังสมองในความคลุมเครือเหมือนฝัน เย็นช่วงเวลาที่ไม่มีเสียงผ่าน CHM แเนื้อของมัน RK ซีแลนด์ลึกอยู่ในใจของสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่ได้รับการมองว่าเป็นเกย์ไม่สามารถเชื่อว่ามันเป็นความจริง ใครที่คุณคิดว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ในอีกมิติหนึ่งซึ่งเป็นที่ซ่อนแอบอยู่ในดินแดนที่ถูกลืมมานานหลายศตวรรษ ฉันเชื่อว่าอารยธรรมจะล่มสลายไปหลายพันปีก่อนที่เทคโนโลยีนี้เป็นความซับซ้อนมากขึ้นกว่าที่หลายต่อหลายครั้งของวันนี้โลก ! "นี่คือน้ำมันพิพิธภัณฑ์เวิร์ทของชนเผ่าที่ตกอยู่มาให้ฉัน. สงสารว่าเราไม่ได้รีบเร่งของนักโบราณคดี. มิฉะนั้นมันอาจจะค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือการที่" ในการทำงานสำหรับฉันที่จะทำลายความเงียบ "เรื่องราวของคนเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดผมไม่ทราบ. ก็คือว่ามันเป็นรถซีดานที่สามารถอ่านข้อความของพวกเขา. นี่คือสิ่งที่มันหมายถึง?" ควีนาสที่ทำหนังสยองขวัญ ได้คิดขโมยเล็กในขณะที่เขาเป็นคนต่างด้าว "ฉันหมายความว่าฉันหรือฉันอยากจะรู้ว่าดี" Zidane คิดกอดอก แล้วเขาก็ส่ายหัว "ผมจะไม่ลืมมัน. พันธบัตรพันธมิตรของเราตกอยู่ในอันตราย......

 FINAL FANTASY ten



เมื่อ 1000 ปีก่อนเกิดสงครามระหว่าง Zanarkand กับ Bevell เมือง Zarnakand พ่ายแพ้และล่มสลายไป และ Zarnakand ของ Tidus เป็นเมืองซึ่งเกิดจากพลังแห่งความฝันของ Aeon ซึ่งต้องการให้เมืองอันเป็นที่รักของพวกเขาคงอยู่ตลอดไป หลังจากที่ Zarnakand จริง(ของ Shuin และ Lenne) ถูกทำลาย พูดง่ายๆ ก็เหมือนโลกต่างมิติน่ะแหล่ะ ดังนั้นเมื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจบลง Aeon ต่างๆ ถูกทำลาย Zarnakand ของ Tidus รวมทั้งตัวเขาเองซึ่งเป็นเพียง "ความฝัน" จึงไม่มีพลังที่จะหล่อเลี้ยงอีกต่อไปและต้องหายไป (เหมือนที่ Fayth พูดว่า Tidus คือความฝันที่เกิดขึ้นมาเพื่อทำให้ความฝันทั้งมวลจบลง) 
ส่วน Shuin ผมไม่เห็นในเกมพูดถึงนะ แต่จากที่เห็นในเวบบอร์ดฝั่งอเมริกา ก็คือ Aeon เอาลักษณะของ Shuin มาเป็นต้นแบบให้ Tidus เพื่อให้ Zarnakand ในฝันเหมือนจริงที่สุด ดังนั้นทั้งคู่จึงมีลักษณะคล้ายกัน 
Concept ของเกมนี้ Spira มาจาก Spiral of Death วัฏจักรแห่งความตายและเกิด (ของ Sin ที่แปลว่า"บาป" ตามความเชื่อของศาสนาว่าเกิดจากบาปของเหล่ามนุษย์) อันไม่รู้จักจบสิ้น (ลองฟังที่ Auron พูดตอนอยู่ในคุกกับ Tidus แล้วจะเข้าใจ Concept ของเกมมากขึ้นครับ)

FINAL FANTASY x-2





2 ปีถัดจากเนื้อเรื่องใน ไฟนอลแฟนตาซี X โลกสปิราไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก พื้นที่ส่วนใหญ่จากภาคก่อนหน้ายังคงอยู่ (ยกเว้น Omega Ruins และ Baaj Temple) และมีสถานที่ใหม่เพิ่มเข้ามาอีกเล็กน้อย สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ หมู่บ้านคิลิกาที่สร้างขึ้นใหม่ และหมอกบนยอดภูเขา Gagazet ได้หายไป เผยให้เห็นซากปรักหักพังที่ถูกลืมเลือนไป นอกจากนี้ พระราชวังแห่งเซนต์เบเวลล์สามารถเข้าได้ตลอดทั้งเกมจากที่ภาคก่อนหน้าสามารถเข้าได้เมื่อถึงเนื้อเรื่องบังคับเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีซิน อีกแล้ว แต่ Fiends ยังคงมีอยู่มากมายดังเช่นเมื่อก่อน

นอกจากความเปลี่ยนแปลงภายนอกแล้ว อุดมการณ์ของชาวสปิราก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเช่นกัน หลังจากที่ซินถูกปราบลงแล้ว ก็เข้าสู่ยุคที่เรียกว่า "Eternal Calm" นักบวชในลัทธิเยวอนได้ตัดสินใจเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับลัทธิ[1] ให้ชาวสปิราได้ตัดสินใจเลือกวิถีการดำเนินชีวิตในโลกที่ไม่มีลัทธิและซิน ชาวสปิ
ราได้รับชาวอัลเบดและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต ขณะที่คนส่วนใหญ่เริ่มแสวงหาความบันเทิงต่างๆ อย่างเช่นการแสดงดนตรี และกีฬาบลิทซ์บอล อีกส่วนหนึ่งก็เป็นนักล่าสมบัติโบราณ ตั้งแต่ค้นหาเหรียญและเครื่องจักรที่ถูกฝังมาเป็นเวลานานอยู่ใต้ผืนทรายบนเกาะบิคาเนล ไปจนถึงสเฟียร์ในถ้ำหรือซากปรักหักพังที่ถูกลืมเลือน ผู้ที่ออกแสวงหาสเฟียร์นี้เรียกว่า "นักล่าสเฟียร์ (Sphere hunter)" ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มหลายกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีซินและ Maesters of Yevon อีกแล้ว แต่สปิราก็ยังคงมีความขัดแย้งอยู่ คนหนุ่มสาวได้ละทิ้งลัทธิเยวอนและหันไปสนใจในเครื่องจักร (ในเกมเรียกว่า "machina") เพื่อหวังจะพัฒนาสปิรา ขณะที่คนรุ่นเก่าจำนวนมากมองว่าความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ในระหว่างนี้ในสปิราได้เกิดอุดมคติและวิถีปฏิบัติใหม่ๆ รวมทั้งกลุ่มทางการเมืองใหม่ๆขึ้นมา โดยสองกลุ่มที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคือ Youth League มีผู้นำคือ Mevyn Nooj และ New Yevon Party นำโดยอดีตนักบวชที่มีชื่อว่า "เทรมา" ซึ่งต่อมาได้หายสาบสูญไป และได้ Praetor Baralai ขึ้นเป็นผู้นำต่อมา สมาชิกของ Youth League ประกอบด้วยคนหนุ่มสาวเป็นหลัก มุ่งหวังที่จะทำให้ชาวสปิราละทิ้งวิถีเก่าๆได้โดยสมบูรณ์ ขณะที่สมาชิกของ New Yevon Party มีทั้งคนหนุ่มสาวและคนรุ่นเก่าที่คิดเห็นว่าความเปลี่ยนแปลงต่างๆควรเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีคติพจน์ประจำพรรคว่า "One thing at a time."

ภาคนี้จะเริ่มต้นที่ริคคุได้นำสเฟียร์ซึ่งพบโดยคิมาริที่เทือกเขากากาเซ่มาให้ยูน่า โดยที่สเฟียร์นั้นบันทึกภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเหมือนกับทีดัสถูกขังอยู่ในคุก ทำให้ยูน่าตัดสินใจเข้าร่วมกับกลุ่มนักล่าสเฟียร์ชื่อ กัลวิงส์ และออกเดินทางไปทั่วสฟีร่าเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของทีดัส แต่บุคคลที่เหมือนทีดัสซึ่งเห็นในสเฟียร์นั้นกลับกลายเป็นชูอินแทน ......... 

 FINAL FANTASY  Twelve


ไฟนอลแฟนตาซี XII ดำเนินเรื่องอยู่บนโลกเสมือนจริงชื่อว่า อิวาลิซ (Ivalice) โดยเริ่มต้นที่อาณาจักรดัลมัสก้า ในเมืองหลวงที่ชื่อ ราบานัสต้า กำลังมีงานเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรส ระหว่างเลดี้แอช เจ้าหญิงแห่งอาณาจักร ดัลมัสก้า กับเจ้าชายราสเลอร์ แห่งอาณาจักรนาบราเดีย ซึ่งภายหลังงานอภิเษกไม่นาน อาณาจักรดัลมัสก้าก็ถูกรุกรานโดยจักรวรรดิอาร์เคเดีย ทำให้เกิดสงครามขึ้น อาณาจักรนาบราเดียกับอาณาจักรดัลมัสก้า ร่วมเป็นพันธมิตร กันต่อต้านการรุกรานของจักรวรรดิอาร์เคเดีย ในระหว่างการรบเจ้าชายราสเลอร์เสียชีวิต เป็นผลให้พระราชารามินัสแห่งอาณาจักรดัลมัสก้า ถูกบังคับให้เซ็นสัญญายอมแพ้ และมีแผนการที่จะสังหารพระองค์ทิ้งหลังจากสละอำนาจ เหล่าอัศวินของอาณาจักรดัลมัสก้า พยายามสุดชีวิตที่จะขัดขวางแผนการนี้ กัปตันบาช หัวหน้ากองทัพอัศวินแห่ง อาณาจักรดัลมัสก้า เป็นผู้ลงมือสังหารพระราชารามินัส โดยมี เร็กส์ ทหารหนุ่มวัย 17 ปีที่พยายามขัดขวางแผนการลอบสังหาร เป็นพยานในที่เกิดเหตุ เป็นผลให้ มาร์ควิส ออนดอร์ ประกาศให้กัปตันบาช ฟอน รอนเซนเบิร์ก ต้องโทษกบฎ พร้อมทั้งประกาศข่าวว่า เลดี้แอช ตรอมใจตาย อันเนื่องมาจากสูญเสียบิดา สามี และอาณาจักรในเวลาเดียวกัน



FINAL FANTASY thirteen 


ไฟนอลแฟนตาซี XIII แบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 13 บท เนื้อหาเป็นการผจญภัยของตัวละครหลักหกตัว ตั้งแต่การเดินทางโดยรถไฟจากพัลส์สู่โคคูน การกลายเป็นลูซีย์ การต่อสู้กับรัฐบาลศักดิ์สิทธิ์ของพัลโคคูน (ซังค์ทัม) นำโดยการานธ์ หรือฟาลซีบัลโทอันเดลุส ราชาแห่งฟาลซี ผู้เคืองแค้นโอร์ฟาน ฟาลซีของพัลส์ที่ทรยศมาอยู่ฝ่ายโคคูน และการช่วยเหลือมิให้โคคูนตกลงสู่พัลส์
เมื่อนานมาแล้ว ฟาลซีโอร์ฟานได้สร้างโลกพัลส์ขึ้นมา แต่เมื่อจำนวนประชากรมากขึ้น จนเกิดความวุ่นวาย โอร์ฟานและฟาลซีตนอื่นๆ จึงคิดจะล้างโลก โดยใช้มนุษย์ผู้หนึ่งเรียก แร็กนาร็อก มนต์อสูรแห่งการทำลายเพื่อกวาดทุกสิ่งให้เหลือศูนย์ แล้วสร้างโคคูน ดาวดวงใหม่ อารยธรรมใหม่ ให้แก่มนุษย์
500 ปีต่อมา รัฐบาลศักดิ์สิทธิ์ของโคคูน ซึ่งการานธ์ ไดน์สีย์ เป็นผู้นำ มีนโยบายในการกวาดล้างเหล่าลูซี และสร้างความหวาดกลัวเหล่าลูซีแก่มนุษย์ แต่การจำแนกเหล่าลูซีที่ปะปนกับมนุษย์ทั่วไปนั้นทำได้ยาก จึงต้องส่งกลุ่มคนที่ต้องสงสัยทั้งหมดไปยังพัลส์ โลกเบื้องล่างที่ประชากรในโคคูนต่างหวาดกลัว คนกลุ่มที่ถูกส่งมายังพัลส์ในช่วงต้นเกมก็คือ ชาวเมืองโบดัมที่ไลท์นิ่งอาศัยอยู่ นอกจากไลท์นิ่งที่โดยสารขบวนนี้แล้ว ยังมีซัลซ์ที่มีลูกชายเป็นลูซี สโนว์ที่ต้องการตามหาเซร่า น้องสาวของไลท์นิ่งและคนรักของเขา โฮป และวานิลล์ รวมอยู่ด้วย
เมื่อรถไฟมาถึงเขตชายขอบ ไลท์นิ่งและพรรคพวกได้ปฏิบัติการโจมตีเหล่าทหารของรัฐบาล (ไซคอม) และช่วยเหลือผู้คน จากนั้นจึงมุ่งไปยังโบราณสถาน ณ ที่นั้น พวกเขาได้พบกับเซร่า แต่เธอก็กลายเป็นคริสตัลเสียแล้ว กลุ่มตัวเอกจึงไปขอร้องฟาลซีอะนิมาที่เฝ้าโบราณสถานให้ช่วยเซร่า แต่ฟาลซีอนิมากลับเข้าต่อสู้ เมื่อใกล้สิ้นชีพอะนิมาได้สาปพวกเขาให้กลายเป็นลูซี
เมื่อทั้งหมดกลายเป็นลูซี จึงได้ออกผจญภัยเพื่อตามหาความจริง และได้เจอกับการานธ์ ซึ่งที่จริงก็คือบัลดันเดอร์ ราชาแห่งฟาลซี ผู้เคืองแค้นโอร์ฟาน ฟาลซีของพัลส์ที่ทรยศมาอยู่ฝ่ายโคคูน บัลดันเดอร์ต้องการทำลายโคคูนทิ้ง โดยใช้กลุ่มตัวเอกให้เรียกแร็กนาร็อกอีกครั้ง จากนั้นกลุ่มตัวเอกได้ผจญภัยเข้าไปในพัลส์ ผ่านศัตรูโหดร้ายมากมาย จนกระทั่งได้เจอกับบัลดันเดอร์อีกครั้ง บัลดันเดอร์ได้ฝากให้ปฏิบัติภารกิจทีเขามอบหมายให้สำเร็จ และทิ้งยานไว้ให้ตัวเอกกลับไปยังโคคูน เมื่อกลุ่มตัวเอกกลับไปยังโคคูนก็พบว่า สัตว์ขนาดมหึมาจากพัลส์ได้มุ่งตรงเข้าสู่โคคูนเป็นจำนวนมาก ทุกคนจึงฝ่าพวกมันไปยังเซ็นทรัลทาวเวอร์ หอคอยกลางมหานครเอเดน เพื่อพบกับบัลดันเดอร์อีกครั้ง
เมื่อมาถึงใจกลางหอคอย กลุ่มตัวเอกได้สู้กับบัลดันเดอร์เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อชนะแล้วทุกคนต่างดีใจยกเว้นไลท์นิ่งที่สังหรณ์ใจบางอย่าง และแล้ว มิเนอร์วา นกที่คอยติดตามบัลดันเดอร์มาตลอดได้พุ่งเข้ารวมร่างกับบัลดันเดอร์เป็นโอร์ฟาน ฟาลซีผู้สร้าง และกำลังจะเป็นผู้ทำลายโลกทั้งสอง โอร์ฟานได้ทรมานวานิลล์และฟาง สองผู้รอดชีวิตจากสงครามเมื่อ 500 ปีก่อน และเป็นผู้เรียกแร็กนาร็อกมาทำลายโลก โดยหวังให้เรียกมนต์อสูรตนนั้นออกมาอีกครั้ง แต่ด้วยพลังของเพื่อนทุกคนทำให้ทั้งสองควบคุมสติและร่วมมือกันกำจัดโอร์ฟานจนสำเร็จ
เมื่อโอร์ฟานสิ้นชีพ ก็เปรียบเหมือนแกนค้ำจุนโคคูนได้ทลายลงด้วย โคคูนกำลังจะร่วงลงสู่พัลส์ วานิลล์และฟางจึงประสานใจกันเกิดเป็นแร็กนาร็อกที่ไม่ได้เป็นผู้ทำลายอีกต่อไป หากแต่เป็นผู้คุ้มครองโคคูน แร็กนาร็อกได้แปลงพลังของตนและของพัลส์ทั้งหมดเป็นเสาคริสตัลค้ำโคคูนไม่ใหตกลงสู่พัลส์ ทำให้มนุษย์รอดพ้นหายนะครั้งใหญ่นี้ได้

 FINAL FANTASY 13-2




เหตุการ์ณหลังจากการล่มสลายของนครลอยฟ้า Cocoon ที่ตกลงสู่พื้นดิน มนุษย์ชาติจะต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแผ่นดิน Gran Pulse ที่ป่าเถื่อนและไม่คุ้มเคย โดยจะเรียกยุคใหม่นี้ว่า After fall  ( ศักราชใหม่หลังการล่มสลายของโคคูน ) โดยได้รวมตัวกันสร้างเมืองใหม่เมืองแรกขึ้นมาคือ เมือง Neo Bodhum  แต่ก็จะเกิดผลกระทบที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหมือนเดิมคิดการเกิดขึ้นของ มิติคู่ขนาน Valhalla ซึ่งเป็นดินแดนมิติแห่งความตาย

Lighting ก็หายสาปสูญไปหลังจากที่พยายามเข้าช่วยเหลือ Vanilla และ Fang ที่ต้องกลายเป็นคริสตัลจนเธอต้องหลุดเข้าไปในมิติ Valhalla จากการบิดเบี้ยวของมิติเวลาที่เรียกว่า Time Paradox จนทำให้ทุกคนคิดกันว่า Lighting นั้นได้ตายไปแล้ว มีเพียง Sarah น้องสาวของเธอเท่านั้นที่ยังมั่นใจว่า Lighting และ Snow จะกลับมาตามที่เคยสัญญาเอาไว้

เวลาผ่านไป 3 ปีหลังจากเริ่มศักราชใหม่หลังการล่มสลายของโคคูนได้เกิดมีอกกาบาตลึกลับตกลงมาจากฟ้าลงมาที่โลก และได้มีมอนสเตอร์ลึกลับที่มาพร้อมอุกกาบาตเข้ามาโจมตีชาวเมือง Neo Bodhum จนเกิดความวุ่นวายไปทั่ว จนได้มีเด็กหนุ่มลึกลับนามว่า Noel Kreiss ปากฎตัวขึ้นและมอบอาวุธให้ Sarah และบอกให้เธอลุกขึ้นสู้อีกครั้งเพื่อรอคอย Lighting พี่สาวเธอที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง..

..Noel Kreiss เด็กหนุ่มที่มาจากอนาคต ผู้มาจากโลกที่กำลังจะสูญสลาย เขากุมความลับอะไรไว้กันแน่.?

.. นี่คือสิ่งที่คุณต้องค้นหาจาก ไฟนอล แฟนตาซี 13 ภาค 2 นี้ นั่นเอง !

FINAL FANTASY VERSUS 13


ภาคนี้ผมให้คะแนนเต็ม 9 เลย

 FINAL FANTASY tactics



                                               psp



ps1



ไม่มีอะไรมากตรงไหนสีแดง ก็คือสู้

เนื้อเรื่องลับ


วิธีเอาคลาวด์มาเป็นพวก

เหตุการณ์ ที่จะได้คลาวด์มาชัวร์ๆ ก็ต้งผ่าปราสาทลีโอวาลเนสก่อน (ที่สู้กับเอลเดอร์ ถือดาบมาซามุเนะ) ก่อนหน้านั้นเราจะเจอสาวขายดวกไม้ ขายดอกไม้ให้เรา(ยังไงก็ต้องเจอ) ดั่งเช่นใน FF7 ก็อุดหนุนเธอสักหน่อยแล้วกัน
1. เริ่ม ch4 ไปที่เมืองของมุสตาดิโอ้ พ่อของมุสตาดิโอ้จะได้ลูกบอลเหล็กมา1ลูก
2. ไปที่เหมือง(จำชื่อไม่ได้ ที่อยู่กลางทวีป) จะพบว่ามีข่าวเรื่องมังกรในเหมือง เราก็แสนดีซะเหลือเกินที่จะไปสำรวจให้(หรือยุ่งไม่เข้าเรื่องหว่า) ก่อนออกจากบาร์ เบโอวูฟจะขอไปด้วย ตอบตกลง แล้วเบโอวูฟจะเข้ากลุ่มเป็นตัวละครสนับสนุน(ควบคุมไม่ได้)
3. ลุยเหมือง จนพบมังกรเรอีสที่ชั้นล่างสุด เมื่อผ่านแล้วก็จะได้เบโอวูฟ กับมังกรเรอีส แล้วเบโอวูฟจะให้หินสัญลักษณ์เดียวกับลูกเหล็กในตอนแรก
4. ไปที่เมืองที่เจอเมเรียดอลครั้งแรก อ่านข่าวในบาร์เกี่ยวกับเกาะ(จำชื่อไม่ได้) เข้าไปสู้กับหุ่นเบอร์7 เมื่อชนะเราก็จะได้ เรอีสร่างมนุษย์มาร่วมด้วย
5 กลับไปที่บ้านมุสตาดิโอ้ จะได้หุ่นเหล็กเบอร์8(มั้ง)เป็นพวก แล้วกลับมาท่นี่อีกครั้งจะมีเหตุการณ์เครื่องย้ายมิติ แต่ก็ยังขาดหินสัญลักษณ์ (หินก้อนนี้รู้สึกจะเป็นของ เมเรียดอล)
6. เมื่อได้หินที่ว่ามาใส่แล้วคลาวดืก็จะถูกเชิญตัวมา แล้ววิ่งหนีไป
7. ตามท่ทีเมืองการค้า ที่อยู่ขวาบนสุดของทวีป ก็จะเจอ เอรีสกำลังโดนฉุด ด้วยความที่เป็นพระเอก(แต่ไม่เจียม) ของที่คล้าว เอ้ย พี่คลาวด์ ก้เข้าไปขวาง แต่ก็อาการปวดหัวกำเริบ เราก็ต้องไปช่วยตามระเบียบ จบฉากก็จะได้พี่คล้าว เอ้ยพี่คลาวด์มาร่วมด้วย
8. ดาบของพี่คลาวด์เราจะอยู่บนยอดเขาของแผนที่ภูเขาไฟ ไปเอาเองแล้วกัน
9. ไปที่เมืองการค้าด้านล่างสุดอ่านข่าวเกี่ยวกับเกาะลึกลับดีฟดันเจี้ยน แล้วจะไปที่ดีฟดันเจี้ยนได้(ต้องผ่านเหตุการณ์ที่ พี่ของแรมซ่ากลายเป็นผีดิบไปแล้ว)


ด่านลับ

เงื่อนไข คือ deep dungeon จะปรากฏเมื่อชนะศึกที่ St. Murond Temple แล้ว ใน chapter 4 นะครับ แล้วให้ไปที่ Warjilis Trade City จะปรากฏสถานที่ใหม่เข้ามา คือ deep dungeon :meelov


ขอขอบคุณเหล่าคนรัก final ที่นำบทสรุปมาลงไว้นะคับ

ใครชอบภาคไหนที่สุดก็ เม้นท์ ด้วยนะคับ เพราะผมก็ชอบ